บทวิเคราะห์

โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ เรื่องราวอีกมุมหนึ่งสมัยเด็ก

โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ เรื่องราวอีกมุมหนึ่งเมื่อสมัยยังเป็นเด็กน้อยบราซิลเลี่ยน

โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ คำบอกเล่าของเหล่าคุณครูและเฮ้ดโค้ชที่บราซิลกับเรื่องราวในวัยเด็กของเขาจากคำบอกเล่าของอดีตเพื่อนร่วมทีม, โค้ช และครู ที่จะพาคุณย้อนกลับไปทำความรู้จักกับโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ในสมัยเด็ก ก่อนที่เขาจะกลายเป็น “ดาวเตะฝีเท้าฉกาจ” สังกัด หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่กำลังยึดครองยุทธจักรวงการฟุตบอลอยู่ในปัจจุบัน ในวันจันทร์วันหนึ่งอีกวันที่สุดแสนจะธรรมดาของปี 2001 อาเดรียน่า ไลท์กำลังสอนหนังสืออยู่ในห้องเรียนในเมืองมาเซโอเมืองเล็กๆ ที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลของประเทศบราซิลเขาสอนหนังสือตามปกติจนกระทั่งเธอได้เรียกเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่

ในตอนเด็กของเฟอร์มิโน่

เขาเป็นเด็กเกเรที่ไม่เชื่อฟังคำสอนของครูเท่าไหร่นัก พอตอนอายุ 13 ปี เขาได้เข้าร่วมทีมเยาวชนแห่งหนึ่งในเมืองที่เขาอยู่ คือ คลับ เดอ เรกาตาส บราซิล ที่กำลังเล่นในดิวิชั่น 2 ของลีกบราซิลตอนนี้ และที่นั่นคือสโมสรแรกของเขาในชีวิตนักฟุตบอล เบอร์ 5 คือเสื้อตัวแรกที่เขาใส่ในสโมสรแห่งนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ เฟอร์มิโน่ เป็นแค่ตัวสำรองในตำแหน่งกองกลางตัวรับ หรือถ้าจำเป็นจริงๆ เขามักจะถูกส่งลงเล่นในตำแหน่งกองหลัง (ถึงว่าล่ะ ฟีร์โน่ ของเราแย่งบอลเก่งมาก…)

เฟอร์มิโน่โดดเด่นเสมอตอนที่มีบอลอยู่กับตัวแต่เขาเป็นคนที่เงียบมากๆ และแทบจะไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับเพื่อนร่วมทีมเท่าไหร่นัก “เฟอร์มิโน่ เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์สูง แต่กลับเป็นคนที่หน่อมแน้มเกินไป” กิเลอร์เม่ ฟาเรียส อดีตโค้ชของเฟอร์มิโน่ กล่าว “ทันทีที่ผมเห็นเขาเล่น ผมตัดสินใจเซ็นสัญญาเขามาร่วมทีมในทันทีเลย เพราะผมรู้ว่าเขาจะกลายเป็นที่พึ่งของพวกเราได้ในอนาคตเขาเป็นคนที่ทุ่มเทมากเขาฟังคำแนะนำทุกอย่างทุกคนชอบเขา ในตอนนั้นพวกเรารู้ว่าที่บ้านของเขาค่อนข้างยากจน พวกเราทุกคนพยายามจะช่วยดึงเขาขึ้นมา โดยการช่วยเขาในเรื่องการซ้อม และพาเขาเที่ยวกับเพื่อนๆ ในทีม”

จุดเปลี่ยนในชีวิตครั้งแรกของเฟอร์มิโน่

แต่แล้วจุดเปลี่ยนในชีวิตครั้งแรกของเขาก็เกิดขึ้น เมื่อ โตนินโญ่ อัลเมย์ด้า หนึ่งในผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนของสโมสรได้ติดต่อหาเพื่อนที่เป็นนักฟุตบอลทีม แอตเลติโก มิเนโร่ ว่า “นายดูนี่สิ เด็กคนนี้เจ๋งมาก” แล้ว โตนินโญ่ ก็ได้ส่ง DVD ที่มีคลิปของ เฟอร์มิโน่ ไปให้ บิลูว เพื่อนของเขา และทันทีที่ บิลูว ดูจบเขาก็ได้ติดต่อไปยังสโมสรเซา เปาโล แชมป์ลีกสูงสุดในเวลานั้นทันที เพื่อให้เด็กคนนี้ได้ไปทดสอบฝีเท้าแต่ในท้ายที่สุดเฟอร์มิโน่ ก็ไม่ผ่านการทดสอบฝีเท้าที่เซา เปาโล แต่อย่างน้อยเขาก็ได้มีเพื่อนใหม่ที่ชื่อ บิลูว คนที่ในภายหลังได้เป็นผู้จัดการเรื่องการพาไปทดสอบฝีเท้าในสโมสรต่างๆ จนในที่สุดฝีเท้าของ เฟอร์มิโน่ ก็ได้ไปเข้าตาสโมสรฟิกูเรนเซ่ และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ความสามารถของพรสวรรค์ของเขาได้รับการยอมรับ “เขาถูกหมางเมินอย่างมากจากเซา เปาโล” บิลูว

เฟอร์มิโน่ทำได้ดีกับทีมสโมสรฟิกูเรนเซ่

เขาทำได้ดีหลังจากย้ายลงไปเล่นทางใต้ของบราซิลกับฟิกูเรนเซ่ สโมสรแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองฟลอเรียนนาโปลิส ที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เขากลายเป็นที่จับตามองของเหล่าแมวมองและเอเย่นมากกว่าตอนที่อยู่ในบ้านเกิด หลังจากที่เขาช่วยให้ฟิกูเรนเซ่ขึ้นสู่ลีกสูงสุดของประเทศ เฟอร์มิโน่ ก็ได้มีโอกาสย้ายไปสร้างชื่อเสียงในยุโรปกับสโมสรฮอฟเฟ่นไฮม์ แล้วเขาก็กลายเป็นดาวเด่นแห่งวงการฟุตบอลนับตั้งแต่นั้นมา เขาได้ถ้วยแรกในฐานะนักฟุตบอลอาชีพในปี 2019 จากการคว้าแชมป์ยุโรปกับลิเวอร์พูล และแชมป์ทวีปอเมริกาใต้กับบราซิลในปีเดียวกัน และยังเป็นนักเตะบราซิลที่ยิงได้เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกลงเล่นให้ทีมชาติไปแล้วกว่า 44 เกม

เฟอร์มิโน่

ครูไลท์พูดถึงเด็กชายที่ชื่อโรแบร์โต้  

ครูไลท์จะได้เห็นว่าเขาประสบความสำเร็จก็เป็นเวลานานเช่นกัน เธอไม่เคยรู้เลยว่าคนที่ใส่เสื้อทีมชาติบราซิลลายเหลืองเขียวที่มีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มตลอดเวลาที่ออกทีวีอยู่บ่อยๆ คนนั้นคือ เด็กชายโรแบร์โต้ คนที่เคยเรียนที่โรงเรียนมาเรีย ริต้า ไลรา เดอ อัลเมย์ด้า เมื่อเกือบ 2 ทศวรรษก่อน มีอยู่ครั้งหนึ่งเฟอร์มิโน่ ได้พบกับครูไลท์ที่สนามบินมาเซโอด้วยความบังเอิญเฟอร์มิโน่ ได้ถ่ายรูปกับครูไลท์ และลูกๆ ของเธอตามปกติในฐานะนักฟุตบอลขวัญใจของชาวบราซิล ซึ่งครูไลท์ในตอนนั้นก็จำไม่ได้เลยว่านักฟุตบอลคนนั้นเป็นศิษย์เก่าของเธอ เธอไม่เคยเอะใจมาก่อน จนกระทั่งครูใหญ่ของโรงเรียนได้โทรมาหาเธอในช่วงก่อนที่จะเริ่มแข่งฟุตบอลโลกที่รัสเซีย โดยกล่าวถึงโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ นักฟุตบอลที่เป็นศิษย์เก่าของเธอว่า “เราได้สืบค้นข้อมูลมา แล้วพบว่านักฟุตบอลคนนั้นคือ โรแบร์โต้ ที่เคยเป็นนักเรียนของโรงเรียนเรา” ครูไลท์กล่าวถึงสิ่งที่ครูใหญ่โทรมาในตอนนั้น “ลูกๆ ของฉันไม่มีใครเชื่อว่านักฟุตบอลคนนั้นเป็นศิษย์เก่าของฉัน คนอื่นๆ ก็เช่นกัน แต่พอฉันรู้เช่นนั้น ฉันก็เริ่มนึกย้อนความหลังถึงเด็กชายขี้อายคนนั้น เด็กน้อยที่เอาแต่พูดถึงเรื่องฟุตบอล และมันทำให้ฉันมีความสุขมาก เพราะศิษย์เก่าคนนั้นของฉันได้ต่อสู้กับโลกของความเป็นจริงที่โหดร้าย แล้วได้ก้าวขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดบนเส้นทางสายกีฬาที่ยากลำบากตามที่ตัวเองต้องการจนได้”

หลังจากที่ครูไลท์รู้ว่าเขาคนนั้นคือโรแบร์โต้

หลังจากที่ครูไลท์รู้ว่าเป็นศิษย์เก่า เธอก็อยากที่จะพบกับเขาอีกครั้ง แล้วมาวันหนึ่งเหล่าเพื่อนๆ ของลูกคนโตของเธอพบว่าโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ได้กลับมาพบปะกับเพื่อนเก่าในเมืองมาเซโอ จึงได้รีบมาเรียกคุณครูไลท์ไปหา เฟอร์มิโน่ ทันที

“พวกเรารีบไปที่นั่นกันอย่างรวดเร็ว พอไปถึงฉันก็พบว่าไม่มีใครเปิดทางให้ฉันได้คุยกับ โรแบร์โต้ เลย” เธอกล่าวย้อนอดีต “แต่ลูกชายคนเล็กของฉันอยากจะพบเขามากๆ จึงวิ่งเข้าไปหา แล้วเขาก็อุ้มลูกชายของฉันขึ้น และพาลูกของฉันเข้าไปในบ้าน ลูกชายคนเล็กของฉันมองหน้า โรแบร์โต้ แล้วทำท่าเหมือนจะร้องไห้ โรแบร์โต้ เลยพยายามปลอบลูกของฉัน และเล่นตลกให้ดูเพื่อให้ลูกของฉันไม่ร้องไห้ หลังจากนั้น โรแบร์โต้  ก็ได้เดินออกมา แล้วพาพวกเราไปถ่ายรูปด้วยกัน เขาทำให้วันนั้นเป็นวันที่ดีของพวกเรา”

มาในส่วนของ กิเลอร์เม่ ฟาเรียส คนที่ทำให้ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ได้เข้าร่วมสโมสรคลับ เดอ เรกาตาส บราซิล เขาปรารถนาที่จะพบกับ เฟอร์มิโน่ อีกครั้งเช่นเดียวกับคุณครูไลท์ แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้พบ ฟาเรียส อยู่ในวงการฟุตบอลมายาวนานกว่า 30 ปี เขารู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ครั้งหนึ่งเขาได้เคยเป็นโค้ชให้กับนักเตะที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งในรัฐอาลาโกอัส เฉกเช่นเดียวกับ เปเป้ อดีตนักเตะของ เรอัล มาดริด และ วิลเลี่ยม โจเซ่ กองหน้าของ เรอัล โซเซียดัด แต่ถึงอย่างไร การที่เขาไม่ได้พบกับอดีตลูกทีมคนนั้นอีกเลยก็เป็นเรื่องน่าเสียใจอยู่ดี “ผมดีใจกับความสำเร็จของ โรแบร์โต้ เพราะว่าเขาเคยมาอยู่กับเราที่นี่” ฟาเรียสกล่าว “ผมขอบคุณพระเจ้า เมื่อลูกศิษย์ของผมได้ดิบได้ดี เขาได้รับในสิ่งที่สมควรจะได้รับ ผมอยากจะพบเขาอีกครั้ง เพื่อคุยเล็กน้อย แต่สำหรับที่นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *